***SPOILED
ALERT***
In
the Mood for Love ภาพยนตร์ฮ่องกง ฝีมือกำกับ โดย Wong
Kar Wai เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ Romantics
Drama บอกเล่าเรื่องราวความรักที่เศร้าลึก
โดยตัวผู้กำกับไม่ได้จงใจบีบให้เราร้องไห้ฟูมฟาย
แต่ยิ่งดูเรากลับยิ่งเศร้าไปกับตัวละคร
คุณนายเฉิน
(รับบทโดย Maggie Cheung) และคุณโจว
(รับบทโดย Tony Leung) บังเอิญมาพบกัน
เพราะทั้งคู่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเช่าข้างๆกันในวันเดียวกัน (โดยส่วนตัว เราไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ)
ภาพยนตร์มักจะฉายภาพทั้งสองคนอยู่ตัวคนเดียวเสมอๆ แม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานแล้ว
ภาพยนตร์มักจะฉายภาพทั้งสองคนอยู่ตัวคนเดียวเสมอๆ แม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานแล้ว
จนเมื่อทั้งสองจับได้ว่าสามีและภรรยาของทั้งสองเป็นชู้กัน
จึงได้พูดคุยกันมากขึ้น
เพื่อพยายามหาคำตอบว่าทำไมสามีและภรรยาของกันและกันจึงตกหลุมรักกันได้
แม้ความผูกพันจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของทั้งสองคน
แต่พวกเขาจะทำสิ่งเดียวกับที่ทั้งสองเคยโดนกระทำมาอย่างนั้นหรือ?
ภายใต้ภาพบรรยากาศของฮ่องกงในยุค 1960s และดนตรีประกอบที่แปลกหู ทำให้ภาพยิ่งมีพลังมากขึ้น
ความเศร้าที่ไม่มีน้ำตา แต่ในใจมันจะรู้สึกหน่วงๆ
เราเห็นใจตัวละครทุกตัว
แต่เรารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะไม่มีใครเศร้าเลย
ผู้กำกับได้เว้นช่องว่างในเรื่องราวให้คนดูเลือกเติมช่องว่างกันเอาเอง
ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงที่เรามองไม่เห็นความเป็นไปของตัวละคร
สำหรับเรื่องนี้
สิ่งที่อยากพูดถึงที่สุด คือ คุณนายเฉิน เพราะ เป็นตัวละครที่ถูกทำให้โดดเด่นที่สุดด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามที่สุด
เราคิดว่าในช่วงแรกคุณนายเฉินคงรู้สึกเสียใจ คงคิดว่าเธอบกพร่องที่ไม่สามารถทำให้สามีรักเธอคนเดียวได้
และคงโกรธคุณนายโจวที่มาแย่งสามีของเธอไป แม้เธอจะเริ่มมีใจให้กับคุณโจว
แต่สุดท้ายเธอก็เลือกกลับไปหาสามีของเธอ อาจจะเป็นเพราะ เธอรักสามีเธอมาก
หรือเธออาจจะเพราะทนเสียงซุบซิบนินทาจากชาวบ้านไม่ไหว
หรืออาจะแค่อยากเอาชนะคุณนายโจวก็ได้
ผู้กำกับได้ให้ช่องว่างให้เราเติมเรื่องราวได้อย่างอิสระ
สำหรับเรา เราคิดว่าสาเหตุที่คุณนายเฉินกลับไปหาสามี น่าจะเพราะ
อยากเอาชนะคุณนายโจว และเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนบ้าน เพื่อนำหัวใจของสามีของเธอ(ที่ควรจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว)กลับมา
เพราะ ขนบล้วนบอกเธอว่าสามีของเธอก็ควรเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
และเธอก็ควรจะเป็นของสามีแต่เพียงผู้เดียว เธอดูยึดมั่นเรื่องนี้มาตลอด
แม้ว่าเธอจะถูกทิ้งให้อยู่ลำพังบ่อยๆ หรือเธอจะมีโอกาสมากมายให้หนีไปกับคุณโจว
แต่เธอคงไม่อยากเป็นอย่างคุณนายโจว
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน
เธอก็ต้องเจ็บปวด ถ้าเธอเลือกกลับไปหาสามี
เธอจะต้องเจ็บปวดกับการไม่ได้พบคุณโจวอีก
และเธออาจจะต้องเจ็บปวดเรื่อยไปกับการต้องอยู่คนเดียว
และสามีที่อาจจะมีชู้อีกก็ได้ (เราคิดว่าคุณนายเฉินไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยคุณเฉินได้)
แต่ถ้าเธอเลือกหนีไปกับคุณโจว เธอเองคนจะเจ็บปวด
ที่ทรยศความเชื่อมั่นของตัวเอง แล้วกระทำสิ่งที่ตัวเธอเองไม่ชอบ
สุดท้ายเธอเลือกที่จะกลับไปหาสามี
ซึ่งแน่นอนว่าคุณโจวจะต้องเจ็บปวดจากการโดนแย่งผู้หญิงจากผู้ชายคนเดียวกันถึงสองครั้ง
ส่วนหนึ่ง
เพราะเรื่องราวเกิดในยุค 1960s ยุคที่ผู้คนไม่ได้เชิดชูความรักมากเท่ากับขนบธรรมเนียม
การหย่าร้าง หรือความล้มเหลวของการใช้ชีวิตคู่ยังเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับในสมัยนั้น
โดยส่วนตัวเราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนิสัยคนเรายากมาก เราคิดว่าคู่คุณนายเฉิน
แม้จะยังอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นไปได้ที่คุณเฉินจะมีชู้อีก เราคิดว่าถ้าหากเรายอมรับความล้มเหลวได้
แล้วให้อภัยตัวเอง และเปิดใจให้คนอื่นๆลองเข้ามาศึกษากันและกันดู อาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย
เพราะ เราเชื่อในความรัก และเราเชื่อว่ามีคนที่พร้อมจะรักคุณนายเฉินเพียงผู้เดียวอยู่
หากคุณนายเฉินจะยอมเปิดใจเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น