วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

In the Mood for Love (2000)

***SPOILED ALERT***
In the Mood for Love ภาพยนตร์ฮ่องกง ฝีมือกำกับ โดย Wong Kar  Wai เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ Romantics Drama บอกเล่าเรื่องราวความรักที่เศร้าลึก โดยตัวผู้กำกับไม่ได้จงใจบีบให้เราร้องไห้ฟูมฟาย แต่ยิ่งดูเรากลับยิ่งเศร้าไปกับตัวละคร

คุณนายเฉิน (รับบทโดย Maggie Cheung) และคุณโจว (รับบทโดย Tony Leung) บังเอิญมาพบกัน เพราะทั้งคู่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเช่าข้างๆกันในวันเดียวกัน (โดยส่วนตัว เราไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ) 
ภาพยนตร์มักจะฉายภาพทั้งสองคนอยู่ตัวคนเดียวเสมอๆ แม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานแล้ว

จนเมื่อทั้งสองจับได้ว่าสามีและภรรยาของทั้งสองเป็นชู้กัน จึงได้พูดคุยกันมากขึ้น เพื่อพยายามหาคำตอบว่าทำไมสามีและภรรยาของกันและกันจึงตกหลุมรักกันได้ แม้ความผูกพันจะเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของทั้งสองคน แต่พวกเขาจะทำสิ่งเดียวกับที่ทั้งสองเคยโดนกระทำมาอย่างนั้นหรือ?

ภายใต้ภาพบรรยากาศของฮ่องกงในยุค 1960s และดนตรีประกอบที่แปลกหู ทำให้ภาพยิ่งมีพลังมากขึ้น ความเศร้าที่ไม่มีน้ำตา แต่ในใจมันจะรู้สึกหน่วงๆ
เราเห็นใจตัวละครทุกตัว แต่เรารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะไม่มีใครเศร้าเลย

ผู้กำกับได้เว้นช่องว่างในเรื่องราวให้คนดูเลือกเติมช่องว่างกันเอาเอง ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงที่เรามองไม่เห็นความเป็นไปของตัวละคร

สำหรับเรื่องนี้ สิ่งที่อยากพูดถึงที่สุด คือ คุณนายเฉิน เพราะ เป็นตัวละครที่ถูกทำให้โดดเด่นที่สุดด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามที่สุด เราคิดว่าในช่วงแรกคุณนายเฉินคงรู้สึกเสียใจ คงคิดว่าเธอบกพร่องที่ไม่สามารถทำให้สามีรักเธอคนเดียวได้ และคงโกรธคุณนายโจวที่มาแย่งสามีของเธอไป แม้เธอจะเริ่มมีใจให้กับคุณโจว แต่สุดท้ายเธอก็เลือกกลับไปหาสามีของเธอ อาจจะเป็นเพราะ เธอรักสามีเธอมาก หรือเธออาจจะเพราะทนเสียงซุบซิบนินทาจากชาวบ้านไม่ไหว หรืออาจะแค่อยากเอาชนะคุณนายโจวก็ได้

ผู้กำกับได้ให้ช่องว่างให้เราเติมเรื่องราวได้อย่างอิสระ สำหรับเรา เราคิดว่าสาเหตุที่คุณนายเฉินกลับไปหาสามี น่าจะเพราะ อยากเอาชนะคุณนายโจว และเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนบ้าน เพื่อนำหัวใจของสามีของเธอ(ที่ควรจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว)กลับมา เพราะ ขนบล้วนบอกเธอว่าสามีของเธอก็ควรเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว และเธอก็ควรจะเป็นของสามีแต่เพียงผู้เดียว เธอดูยึดมั่นเรื่องนี้มาตลอด แม้ว่าเธอจะถูกทิ้งให้อยู่ลำพังบ่อยๆ หรือเธอจะมีโอกาสมากมายให้หนีไปกับคุณโจว แต่เธอคงไม่อยากเป็นอย่างคุณนายโจว

ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เธอก็ต้องเจ็บปวด ถ้าเธอเลือกกลับไปหาสามี เธอจะต้องเจ็บปวดกับการไม่ได้พบคุณโจวอีก และเธออาจจะต้องเจ็บปวดเรื่อยไปกับการต้องอยู่คนเดียว และสามีที่อาจจะมีชู้อีกก็ได้ (เราคิดว่าคุณนายเฉินไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยคุณเฉินได้) แต่ถ้าเธอเลือกหนีไปกับคุณโจว  เธอเองคนจะเจ็บปวด ที่ทรยศความเชื่อมั่นของตัวเอง แล้วกระทำสิ่งที่ตัวเธอเองไม่ชอบ
สุดท้ายเธอเลือกที่จะกลับไปหาสามี ซึ่งแน่นอนว่าคุณโจวจะต้องเจ็บปวดจากการโดนแย่งผู้หญิงจากผู้ชายคนเดียวกันถึงสองครั้ง

ส่วนหนึ่ง เพราะเรื่องราวเกิดในยุค 1960s ยุคที่ผู้คนไม่ได้เชิดชูความรักมากเท่ากับขนบธรรมเนียม การหย่าร้าง หรือความล้มเหลวของการใช้ชีวิตคู่ยังเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับในสมัยนั้น โดยส่วนตัวเราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนิสัยคนเรายากมาก เราคิดว่าคู่คุณนายเฉิน แม้จะยังอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นไปได้ที่คุณเฉินจะมีชู้อีก เราคิดว่าถ้าหากเรายอมรับความล้มเหลวได้ แล้วให้อภัยตัวเอง และเปิดใจให้คนอื่นๆลองเข้ามาศึกษากันและกันดู อาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย เพราะ เราเชื่อในความรัก และเราเชื่อว่ามีคนที่พร้อมจะรักคุณนายเฉินเพียงผู้เดียวอยู่  หากคุณนายเฉินจะยอมเปิดใจเท่านั้น





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น